ความสำคัญของดวงอาทิตย์

ความสำคัญของดวงอาทิตย์
ภาพรวมของดวงอาทิตย์
ดวงอาทิตย์ มิได้ไร้ญาติขาดมิตร ก่อตัวขึ้นครั้งแรก มีดาวนับร้อยดวงเป็นกลุ่มกระจุกดาว (Star cluster) ภายหลังได้กระจัดกระจาย ห่างไกลกันออกไป จึงเหลือเพียงดวงเดียว ทำหน้าที่เป็น ดาวศูนย์กลางระบบสุริยะ

ต้นกำเนิดครอบครัวดวงอาทิตย์
เมื่อ 4.6 พันล้านปี ดวงอาทิตย์ได้ก่อขึ้น ท่ามกลางกลุ่มกระจุกดาว นับร้อยดวง คล้ายครอบครัวใหญ่ โดยหมุนโคจรตามกันไปทั้งกลุ่ม ในทางช้างเผือก (Milky way galaxy) ต่อมากลุ่มดาว เหล่านั้น เริ่มถอยห่างไกลกันออกไปและ บางดวงอ่อนแรงลง บางดวงแปรขบวนเปลี่ยนทิศทาง จากสนามแรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นกลไกในกาแล็คซี่ (Galaxy) รูปแบบการโคจร จึงกระจัดกระจายดวงอาทิตย์จึงห่างไกลจากดวงดวงอื่นๆจากกลุ่มเดียวกันขณะเดียวกัน โครงสร้างการก่อตัวขึ้นของดวงอาทิตย์วัตถุดิบมวลสาร (Mass) ส่วนหนึ่งได้จากแหล่งกำเนิดซึ่งประกอบด้วย กลุ่มรังสี -ก๊าซ ฝุ่นหมอก ที่เรียกว่า เนบิวล่า (Nebula) เหลือจากการรวมตัวของดวงอาทิตย์ ได้ถูกแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์เองสะสมในรัศมีกว้างใหญ่ ซึ่งหมุนเป็นแผ่นจานกลม (Disk) รอบๆต่างเริ่มรวมตัวกันไปด้วยจากระยะเวลายาวนานมวลสสารเหล่านั้นกลายเป็นก้อนกลม ใหญ่โตขึ้นตามลำดับ เป็น ดาวเคราะห์หิน(Terrestrial Planets) ดาวเคราะห์ก๊าซ (Jovian Planets) และ ดาวเคราะห์น้อยต่างๆ ในแถบดาวเคราะห์น้อย



ความเหมาะเจาะ สร้างเขตดำรงชีพ
ดวงอาทิตย์ เป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ แหล่งเดียวในระบบสุริยะ โดยแผ่รังสีพลังงานความร้อน หล่อเลี้ยงไปทั่วทั้งระบบสุริยะด้วยความสมดุลของพลังงานความร้อนระยะเวลาและระยะห่างจากวงโคจรของดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบสุริยะ จึงเกิดกลไกเฉพาะอย่างบนดาวเคราะห์แต่ละดวง โดยบนโลก ได้เกิดชั้นบรรยากาศ มีน้ำ มีอากาศ จนเกิดระบบชีวิตขึ้น เหล่านี้เป็นอิทธิพล จากดวงอาทิตย์ เอื้อให้บรรลุผลสมบูรณ์ เพราะโลกและดวงอาทิตย์ มีระยะวงโคจรที่มี ความพอดีกัน ปัจจุบันเรียกว่า พื้นทีเขตดำรงชีพ (Habitable Zone)

กลไกการทำงาน ของดวงอาทิตย์
สภาพแวดล้อมบนดวงอาทิตย์ไม่ได้เงียบสงบมีเสียงระเบิดดังกึกก้องจากกลไกการทำงานเผาผลาญการหลอมละลายเชื้อเพลิงท่ามกลางความร้อนสูงตลอดเวลาบนผิวพื้นเดือดเป็นฟองคล้ายจุดดอกดวง (Granule) จากกลไกของเขตชั้นนำพาความร้อน (Convection Zone) ซึ่งอยู่ด้านล่างภายในดวงอาทิตย์




            ความวุ่นวาย โกลาหลบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ ไม่จบสิ้น จากการฟาดไปมาของเส้นสนามแม่เหล็กเกิดเปลวไฟขนาดยักษ์ (Prominences) เกิดเพลิงโชติช่วงอย่างรุนแรงชั่วขณะ ทันทีทันใดเกิดการลุกจ้ามโหฬาร (Solar flares)ส่งผลให้ พวยพุ่งมวลโคโรนัล (Coronal mass ejection) ออกมาใหญ่โตของมวลสารนับร้อยล้านตัน เป็นสาเหตุหนึ่งจุดชนวนให้เกิด พายุสุริยะ (Solar wind) พัดออกมายังสภาพแวดล้อมอวกาศ ทั้งหมดนี้ คือ พฤติกรรมของดวงอาทิตย์ (Solar Activity) มีที่มาจากสาเหตุเกิด จุดบนดวงอาทิตย์ (Sunspot)

ผลกระทบพายุสริยะ ต่อโลก
การเกิดพายุสุริยะ ส่งผลกระทบต่อระบบสุริยะ (Solar system) อย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะโลก แม้ว่าโลกจะมี ขอบเขตสนามแม่เหล็กโลก (Magnetosphere) ค่อยปกป้องไว้ก็ตาม แต่บางส่วน ของพายุสุริยะจะสามารถหลุดรอด ผ่านเข้ามา ในชั้นบรรยากาศโลก (Earth atmosphere) ได้ จึงได้เกิดปรากฎการณ์ ออโรรา (Aurora) บริเวณเขตขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้เสมอ
ทันทีที่เกิดพายุสุริยะ จากดวงอาทิตย์ กระแสพายุสุริยะจะใช้เวลาเดินทางสู่โลก ประมาณ 24-48 ชั่วโมง สามารถคาดการณ์ผลกระทบต่อ ชีวิตประจำบนโลกได้ ตามมาตรหลักเกณฑ์ ที่สำคัญต่างๆดังนี้
1. มาตรแสดงผลกระทบ ค่ารบกวน ธรณีวิทยาของสนามแม่เหล็กโลก จากพายุสริยะ (Geomagnetic Storms)
2. มาตรแสดงระดับสูง ของรังสีที่เกิดขึ้น เมื่ออนุภาคพลังงานสูงเพิ่มขึ้น (Solar Radiation Storms)
3. มาตรแสดง การรบกวนชั้นบรรยากาศ จากการแผ่รังสี X-ray จากดวงอาทิตย์ (Radio Blackouts)




ถ้าดวงอาทิตย์ หายไป
อย่างไรก็ตาม ดวงอาทิตย์ มีความสำคัญต่อทุกสิ่งในระบบสุริยะ หากปราศจาก ดวงอาทิตย์ ก็จะไม่มีระบบชีวิตรอดดวงอาทิตย์เป็นระบบธรรมชาติของจักรวาล ถูกออกแบบไว้สนับสนับสนนุนความอยู่รอดของชีวิต ค่อยส่งความร้อนส่องแสงสว่าง สร้างแรงดึงดูดเกาะเกี่ยว ระบบสุริยะไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว
สมมุติถ้าดวงอาทิตย์หายไป ทันทีโลกและระบบสุริยะจะมืดสนิท ความร้อนความอบอุ่นจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมงความหนาวเย็นมาแท้ที่ โลกทั้งใบจะกลายเป็นน้ำแข็งภายในไม่กี่วัน สภาพแวดล้อมอุณหภูมิต่ำ -200 องศา C ทำให้พืชล้มตายจากความหนาวเย็น ปราศจากการสังเคราะห์แสง สัตว์ต่างๆ และมนุษย์ก็ขาดแคลนอาหาร ขณะเดียวกัน วงโคจรของดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์น้อย และสิ่งต่างๆในอวกาศ เริ่มเปิดฉากพุ่งชนกัน เพราะปราศจากแรงดึงดูดจากจุดศูนย์ ของระบบสุริยะ เป็นการล่มสลายทั้งระบบสุริยะ ภายในเวลาอันสั้น
**คำเตือน** ห้ามมองดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่มาตรฐานโดยเด็ดขาด

ควรใช้อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับ ดูดวงอาทิตย์โดยเฉพาะเท่านั้น มิฉะนั้นจะทำให้ตาบอดสนิทได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น